เทศบาลเมืองเขลางค์นคร ฝากย้ำเตือนประชาชนในเขต ดูแลและเฝ้าระวัง โรคที่เกิดในช่วงหน้าร้อน โรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด (Heat Stoke)

นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร ได้ติดตามข่าวสารสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนนี้ ว่าอุณหภูมิที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ และจะสูงได้ถึง 42-43 องศาเซสเซียส ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเจ็บปวด เช่น โรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากอาหารและน้ำดื่ม แต่อีกโรคที่มีการพูดถึงกันน้อย ทั้งที่มีคนเป็นบ่อยในช่วงหน้าร้อน คือ โรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด (Heat Stoke) ซึ่งโรคนี้มีอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน จึงได้ฝากย้ำเตือนประชาชนในเขตพื้นที่เฝ้าระวัง และดูแลสุขภาพตนเองในช่วงหน้าร้อนนี้ และแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในเขตพื้นที่รู้จักถึงโรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด (Heat Stoke) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด (Heat Stoke) เป็นโรคที่เกิดจากที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยมีอาการเบื้องต้น ดังนี้
– เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
– วิตกกังวล สับสน ปวดศีรษะ
– ความดันต่ำ หน้ามืด ไวต่อสิ่งเร้า
– และอาจมีผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต เช่น ภาวะขาดเหงื่อ เพ้อ ชัก ไม่รุ้สึกตัว หายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ช็อค และอวัยวะต่างๆในร่างกายล้มเหลว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจทำให้เสียชีวิตได้
โรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด แบ่งตามสาเหตุการเกิดโรคออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. Classical Heat Stroke เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่มีมากเกินไป ส่วนใหญ่เกิดในช่วงอากาศร้อน พบบ่อยในผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง มักเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง อาการที่สำคัญ คือ อุณหภูมิในร่างกายสูง ไม่มีเหงื่อ
2. Exertional Heat Stroke เกิดจากการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป มักจะเกิดในหน้าร้อนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานและนักกรีฑา อาการคล้ายกับกลุ่มแรกแต่ต่างกันตรงที่กลุ่มแรกนั้นมีเหงื่อออก และพบอาการอื่นแทรกซ้อน
บุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดโรคลมแดด
– ทหารที่เข้ารับการฝึก โดยปราศจากการเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมกับการเผชิญสภาพอากาศร้อน
– นักกีฬาสมัครเล่น
– ผู้ที่ทำงานในสภาพอากาศร้อนชื้น
– ผู้สูงอายุ เด็ก คนอดนอน คนดื่มเหล้าจัด
– ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง